Giffarine by Ongard
ช้อปเมื่อไรก็ได้ พร้อมสิทธิมากมาย
กิฟฟารีน ออนไลน์
ที่นี่...เราเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน
  โทร. 0802033222
  ไลน์ ไอดี: @giffarinevirtual.s

  0 Cart

Richy Healthy
by Giffarine Virtual Shop
     Website ที่จะช่วยเปลี่ยนกิจวัตรที่จำเจ ให้เป็นกิจการ เปลี่ยนรายจ่าย ให้เป็นรายได้
      เพียงแค่คุณสมัครเป็นสมาชิกกิฟฟารีน  เพื่อรับสิทธิ์ซื้อสินค้า ราคาประหยัดถึง 25% อีกทั้งยังให้คุณเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ ต้นทุนต่ำแบบ Virtual Shop ที่มีสินค้ากว่า 2000 รายการให้คุณ เลือกซื้อ หรือค้าขาย Online โดยไม่ต้องสต๊อกสินค้าได้ตามความชอบอีกด้วย
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาหารสุขภาพ
ที่มีคุณประโยชน์ต่อตับ
   ตับคือหนึ่งในอวัยวะที่สําคัญของร่างกาย เป็นศูนย์กลาง ทําลายสารพิษทั้งหมด ที่มาจากระบบทางเดินอาหาร   นอกจากนี้ 
ยังเป็น อวัยวะสําคัญในการควบคุมระดับน้ําตาล ระดับไขมัน ในเลือด และสารเคมีสําคัญ อีกมากมาย อาหารสุขภาพที่มีงานวิจัยรองรับว่ามีคุณประโยชน์ต่อตับมีหลายชนิด อาทิเช่น 
● สาหร่ายสไปรูลินา 
   สาหร่ายสไปรูลินา เป็นแหล่งของโปรตีนสมบูรณ์แบบที่เพียบพร้อมด้วยกรดอะมิโนชนิดที่จําเป็นต่อร่างกาย รวมถึงสารอาหาร ต่างๆ อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ในด้านการป้องกัน และบําบัด รักษาโรค เช่น วิตามินบีรวม แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ (เบตาแคโรทีน วิตามินอี) เป็นต้น มีงานวิจัยว่าสาหร่ายสไปรูลินา สามารถช่วยลดความเป็นอันตรายต่อตับเมื่อได้รับสารพิษได้
(อ้างอิงที่ 1-4)

● โคลีน 
   โคลีนเป็นสารสําคัญที่ใช้ในการสร้างสารสื่อประสาท (Acetyl- choline) มีบทบาทสําคัญคือ ทําให้ตับสามารถขนถ่ายไขมันได้ (Fat Transportation) และลดการสะสมไขมันในตับ (Hepatic Steastosis) การขาดโคลีนจะเกิดภาวะการสะสมไขมันที่ตับ (Fatty Liver) 
(อ้างอิงที่ 5-8) 

● วิตามิน 
   การวิจัยเรื่องวิตามินในการบํารุงตับ ลดการอักเสบ หรืออาจจะลดการลุกลามของโรคตับเรื้อรังบางชนิด มีมากมายทั้งคนและสัตว์ ตัวอย่างเช่น

- มีงานวิจัยว่า การให้วิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ อื่น ป้องกันตับอักเสบในหนู นอกจากนี้ในหนูทดลอง การให้วิตามินเอก็สามารถป้องกันอันตรายตับ ต่อการได้รับสารพิษทําลายตับบางชนิดได้ 
(อ้างอิงที่ 9-10)

- การวิจัยทางระบาดวิทยาก็พบว่า ในผู้ป่วยที่ดื่มแอลกอฮอล์มาก ซึ่งอาจทําให้เป็นโรคตับหลายชนิดตามมา พบว่า การมีวิตามิน และภาวะโภชนาการที่ดี สามารถช่วยป้องกันหรือลดความ รุนแรงของโรคตับเหล่านี้ได้ 
(อ้างอิงที่ 11) 

   สําหรับผู้ที่ดื่มสุราก็ยังมีการวิจัยแบบทดลองโดยตรง ด้วยการให้นิโคตินาไมด์ ซึ่งเป็นวิตามินบี 3 แก่อาสาสมัครที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณสูง พบว่าการให้วิตามินบี 3 สามารถลดอันตรายต่อตับในผู้ที่ดื่ม แอลกอฮอล์ปริมาณสูงได้ 
(อ้างอิงที่ 12)

   - มีงานวิจัยเชิงสรุปที่ตีพิมพ์ ข้อคิดเห็นว่า วิตามินที่มี คุณสมบัติเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ อาจจะมี ประโยชน์ในการช่วยลด การลุกลามของโรคตับ เรื้อรังบางชนิดได้ (อ้างอิงที่ 13) 

   - นอกจากนี้ ก็มีงานวิจัยที่ ทดลองในคนโดยตรงเป็นการวิจัยจากประเทศเยอรมัน ในผู้ป่วย 68 ราย เป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัดตับจากโรคมะเร็งตับ ทําให้ตับ ทั้งหมดต้องได้สภาวะการบาดเจ็บจากการขาดเลือด  พบว่าการให้วิตามินอีก่อนผ่าตัด สามารถลดอันตรายการบาดเจ็บต่อตับ ได้อย่างแท้จริง 
(อ้างอิงที่ 14)

● ทับทิม 
   ทับทิมมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ มีงายวิจัยที่แสดง ถึงว่าทับทิมช่วยลดอันตรายต่อตับเมื่อได้รับสารพิษเช่นกัน
(อ้างอิงที่ 15) 
เอกสารอ้างอิง 
1.Chemoprevention of rat liver toxicity and carcinogenesis by Spirulina. Int J Biol Sci. 2009 Jun 2:5(4):377-87
2. Spirulina in health care management, Curr Pharm Biotechnol. 2008 Oct;9(5):400-5
3.Spirulina protects against cadmium-induced hepatotoxicity in rats. American Journal of Pharmacology and Toxicology 1 (2): 21-25, 2006
4.Nutritional and therapeutic potential of Spirulina, Curr Pharm Biotechnol. 2005 Oct;6(5):373-9
5. Methionine metabolism and liver disease. Annu Rev Nutr. 2008;28:273-93
6. Inhibition of hepatocarcinogenesis in mice by dietary methyl donors methionine and choline. Nutr Cancer. 1990;14(3-4):175-81
7.Choline-deficiency fatty liver; impaired release of hepatic triglycerides. J Lipid Res. 1968 Jul;9(4):437-46
8.Neuro-transmitters in the central nervous system & their implication in learning and memory processes. Curr Med Chem. 2009;16(7):796-840
9. Antioxidants vitamin E and 1-aminobenzotriazole prevent experimental nonalcoholic steatohepatitis in mice. Scand J Gastroenterol. 2009 Jul 15:1-11
10. The effect of vitamin A on CC14-induced hepatic injuries in rats: a histochemical, Immunohistochemical and ultrastructural study. Acta Histochem, 2006;107(6):421-34. Epub 2005 Oct 26
11. Relationships between nutrition, alcohol use, and liver disease, Alcohol Res Health, 2003.27(3):220-31
12. Nicotinamide counteracts alcohol-induced impairment of hepatic protein metabolism in humans. J Nutr. 1997 Nov;127(11):2199-204
13. Chronic hepatic disease and dietary instruction. Hepatol Res. 2004 Dec:30S:92-95. Epub 2004 November 28
14. Pilot study on the effect of parenteral vitamin E on ischemia and reperfusion induced liver injury: a double blind, randomized, placebo-controlled trial, Clin Nutr. 2004 Dec:23(6):1360-70
15. Studies on antioxidant activity of pomegranate (Punica granatum) peel extract using in vivo models. J Agric Food Chem. 2002 Aug 14,50017):4791-5

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ...เลซิติน 
มิกซ์แคโรทีนอยด์ และวิตามิน อี
   ตับเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทําหน้าที่สําคัหลายประการ เมื่อใดก็ตามที่ตับทํางานไม่เป็นปกติ เช่น ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง จะเกิดอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ภูมิต้านทานต่ํา ขาดโปรตีน บวม เลือดออกง่าย แผลหายช้า น้ําตาล ในเลือดสูงหรือต่ํากว่าปกติ ไขมันในเลือดสูง ท้องมาน อาการทางสมอง ไตวาย หัวใจวาย และส่งผลต่อสุขภาพ โดยรวมของร่างกายในทุกระบบ

   ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคเกี่ยวกับตับเป็น
จํานวนมาก โดยมีงานวิจัยรายงานว่า 30% ของคนทั่วไปมีภาวะไขมันพอกตับ (ศึกษาโดยการ ตรวจเนื้อเยื่อ) โดยกว่า 70% ของคนอ้วน จะมีภาวะ ไขมันพอกตับ และมีความเสี่ยงต่อภาวะตับอักเสบ และตับแข็ง และ 95% ของคนอ้วนที่ดื่มสุรา จะมี ภาวะไขมันพอกตับ และมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นตับอักเสบและตับแข็งได้

   นอกจากนี้ ยังพบว่าโรคเรื้อรังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โคเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง จะมีส่วนเชื่อมโยง ให้เกิดโรคเกี่ยวกับตับโดยเฉพาะไขมันพอกตับได้ มีรายงานว่า 80% ของผู้ป่วยเบาหวาน มีภาวะไขมัน พอกตับ และมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคตับแข็งสูงกว่าการเสียชีวิตจากโรคหัวใจด้วยสัดส่วน 2.7 : 1.8 เลยทีเดียว

สารฟอสฟาทิดิลโคลีน ในเลซิติน 
มีบทบาทในการบํารุงตับ ดังนี้

• ช่วยในการก่าจัดไขมันออกจากเซลล์ตับ 
• ยับยั้งการสะสมไขมันในเซลล์ตับ 
เลซิตินที่มีฟอสฟาทิดิลโคลีนสูง จะช่วยแก้ปัญหาไขมันพอกตับได้เป็นอย่างดี
มาทําความรู้จักกับเลซิติน
   เลซิติน (Lecithin) เป็นไขมันในกลุ่มฟอสโฟไลปิด (Phospholipid)  ซึ่งอุดมด้วยสารฟอสฟาติดิล โคลีน (Phosphatidyl Choline) ที่มีคุณสมบัติ เข้ากันได้กับน้ําและน้ํามัน ถือเป็นตัวทําละลายที่ดี ช่วยในการทําละลาย โคเลสเตอรอลในเลือดให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กๆ จึงลดการสะสม ของไขมันที่ตับและลดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด

แหล่งของเลซิตินที่พบได้ตามธรรมชาติ มีอยู่ 2 แหล่งที่สําคัญ คือ

   1. ร่างกายของมนุษย์ สามารถผลิตเลซิตินได้เองที่ “ตับ” แต่หากร่างกาย ขาดสารตั้งต้นสําหรับใช้ผลิตเลซิติน เช่น กรดไขมันจําเป็น วิตามินบี และ สารอาหารสําคัญอื่นๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายสร้างเลซิตินได้ไม่เพียงพอ

   2. แหล่งธรรมชาติ พบได้ทั้งในพืชและสัตว์ โดยจะพบมากในไข่แดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง จมูกข้าว เป็นต้น แต่การบริโภคอาหาร เหล่านี้ในปริมาณมาก มักจะให้โคเลสเตอรอลสูงตามมาด้วย 

   ปัจจุบันจึงมีการสกัดเลซิตินเข้มข้นจากไข่แดงและถั่วเหลือง ซึ่งเลซิติน ที่สกัดจากถั่วเหลืองจะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันสุขภาพได้ดีกว่าแหล่ง อื่น ๆ เพราะมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวมากที่สุดและปราศจากโคเลสเตอรอลนั่นเอง
คุณสมบัติของเลซิติน

   • ดูแลตับ ปกป้องตับจากการเกิดภาวะไขมันพอกตับ บํารุงตับ ป้องกันตับอักเสบ ป้องกันตับแข็ง

  ลดภาวะไขมันพอกตับ 
มีการศึกษากับผู้ป่วยที่ต้องได้รับ อาหารทางหลอดเลือดดําโดยตรงเป็นเวลานาน (Long term parenteral nutrition) จํานวน 15 คน ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มักพบปัญหา ระดับโคลีนในเลือดต่ํา และพบว่าประมาณ 50% ของผู้ป่วยมี ภาวะตับอักเสบ จึงทดลองให้เลซิตินในผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า กลุ่มที่ได้รับเลซิตินมีระดับโคลีนในเลือดเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และมีการสะสมของไขมันที่ตับลดลงอย่างมีนัยสําคัญ เมื่อเทียบกับ ก่อนการทดลอง ดังตารางนี้

   เนื่องจากเลซิตินจะลดการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันภายในตับ ทําให้ไขมันไม่เกิดการรวมตัว จึงไม่ไปพอก
ที่เซลล์ตับ อีกทั้งเร่ง การเผาผลาญไขมันที่ตับ จึงทําให้ไม่เกิดการสะสม และลดการ ดูดซึมโคเลสเตอรอลที่เป็นสาเหตุสําคัญในการเกิดภาวะไขมันพอกตับนั่นเอง

   ป้องกันโรคตับจากแอลกอฮอล์  
มีการศึกษาในลิงบาบูนพบว่า เลซิตินสามารถป้องกันการเกิดโรคตับแข็ง เนื่องจากการรับประทาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยเลซิตินจะไปกระตุ้นการทํางานของ เอนไซม์คอลลาจีเนสในตับ จึงลดการสร้างพังผืดในตับ ลดการสะสมของไขมันในตับ ซึ่งเป็นสาเหตุของการพัฒนาไปสู่โรคตับแข็ง ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันบริเวณตับ จึงไม่เกิดอนุมูลอิสระ ไปทําลายเซลล์และป้องกันภาวะจากการอักเสบของตับ

   จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า ลิงบาบูนที่ได้รับเหล้าจะพัฒนาไป เป็นตับแข็งเกือบทุกตัวภายใน 6 ปี แต่หากได้รับเหล้าร่วมกับ ฟอสฟาทิดิลโคลีน จะไม่เป็นตับแข็งแม้แต่ตัวเดียว

  ป้องกันตับจากสารพิษต่างๆ
   • ป้องกันตับจากพิษของยาบางประเภท ได้แก่ แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาแก้อักเสบเตตร้าไซคลิน 
   • ป้องกันตับจากสารเคมีหรือพิษของยากําจัดศัตรูพืชต่างๆ
   • ป้องกันตับจากพิษของเห็ดบางชนิด 
   • ป้องกันตับจากรังสี

   บํารุงสมอง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างความจํา และลดอาการอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น 
ปัจจุบันการรักษา ทางการแพทย์ได้ใช้เลซิตินในการบําบัดโรคทางสมองต่างๆ เช่น โรคพาร์คินสัน (Parkinson's Disease) โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease) ซึ่งเป็นโรคทางสมองที่เกิดจากเซลล์ประสาทขาดสาร อะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) หรือคนชราที่ป่วยเป็นโรคความจํา เสื่อม โดยพบว่าผู้สูงอายุที่มีภาวะความจําเสื่อมบางรายจะมีอาการ ดีขึ้น เมื่อได้รับประทานเลซิตินวันละ 25 กรัม ติดต่อกันเป็นเวลา หลายเดือน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะ เริ่มแรกพบว่า เมื่อได้รับโคลีนเป็นระยะเวลา 6 เดือน จะช่วยให้ ความจําดีขึ้นได้ หรือการให้โคลีนร่วมกับยาที่ใช้รักษา (Cholinesterase Inhibitors) ทําให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจํา เพิ่มขึ้นได้

กราฟด้านซ้าย
แสดงการเกิดภาวะโรคตับของลิงบาบูน ที่ได้รับเหล้าร่วมกับอาหารปกติ

กราฟด้านขวา
แสดงการเกิดภาวะโรคตับของลิงบาบูน ที่ได้รับเหล้าร่วมกับฟอสฟาติดิลโคลีน

   กราฟแสดงระดับโคเลสเตอรอลของผู้ป่วยที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง เปรียบเทียบระหว่าง ก่อนรับประทานเลซิติน  โดยรับประทาน 1 เดือน และรับประทาน 2 เดือน
   ลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ
ช่วยละลายไขมัน ป้องกันการตกตะกอนของไขมันในผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุทําให้หลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกัน การเกิด อัมพฤกษ์ อัมพาต

   โดยมีการศึกษาทั้งในสัตว์ทดลองและผู้มีภาวะระดับโคเลส เตอรอลสูงพบว่า เลซิตินจะลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล สามารถ ลดระดับไขมันชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ได้ อีกทั้งช่วย เพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) ได้อีกด้วย จากคุณสมบัติดังกล่าว จึงทําให้ลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันป้องกันภาวะหัวใจขาดเลือด อันนําไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหัวใจวายเฉียบพลัน

  ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ําดี 
เลซิตินจะเพิ่มความสามารถในการทําละลายของน้ําดี ทําให้สารแขวนลอยใน น้ําดีไม่จับตัวเป็นก้อนจนกลายเป็นนิ่ว เพิ่มการหลั่งและการไหลเวียน ของน้ําดี และลดค่าดัชนีไขมันอิ่มตัว (Cholesterol saturation index)

  ช่วยลดน้ําหนัก ลดไขมันสะสม 
โดยช่วยละลายไขมัน จึงเผาผลาญไขมันได้ดี อย่างไรก็ตาม การได้รับเลซิตินเพียงอย่างเดียว อาจแก้ปัญหา ทางสุขภาพได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากถึงแม้ว่าเลซิตินจะช่วยลด การสะสมไขมันที่ตับและผนังหลอดเลือดได้ แต่ยังคงหลงเหลือ ไขมันบางส่วนที่ยังสะสมอยู่ในเซลล์ดังกล่าว และยังมีไขมันบางส่วน ในกระแสเลือดที่มีโอกาสเกิดการสะสมพอกพูนได้เพิ่มเติม ดังนั้น ร่างกายจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงเพิ่มเติม เพื่อปกป้องไขมันเหล่านี้ไม่ให้เกิดการออกซิเดชั่น และลดการอักเสบของเซลล์ จึงลดโอกาสการเกิดไขมันพอกตับและผนัง หลอดเลือดได้อีกทางนั่นเอง
เอกสารอ้างอิง
• Carcinogenesis, 1998 Mar; 19(3): 403-411
• Cholesterol, Vol. 2010, Article ID 824813, 4 pages
• Current Therapeutic Research, 2004 May-June; 65(3): 266-277
• E Encyclopedia of Natural Medicine. Revised 2nd ed. 1998, USA: Prima
Publishing. pp 299,283, 481.
• Gastroenterology 1992: 102(4P+1) :1363-1370, PMID : 1551541
• Gastroenterology 1994; 106:152-159
• Gastroenterology and Hepatology, 2007, 22: 794-800
• Hepatology, 2003; 37(5): 1202-1219
• International Symposium on Human Health: Favhealth 2007
• National Cancer Center Kyoto Perfetural University of Medicine, Kyoto, Japan
• The Am. J. of Clinical Nutrition 43: January 1986: 101
• The natural pharmacy, 1998, USA: Prima Publishing, pp 176-177.
• Toxical and Health, 2009 May-June; 25(4-5): 311-320
• Sources of choline and lecithin in the Diet Choline and Lecithin in Brain
Disorders Raven Press, New York 1979
เสริมประสิทธิภาพการทํางาน ของเลซิตินได้อย่างเต็มที่ 
ด้วยแคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติ 4 ชนิด และวิตามิน อี

   กล่าวกันว่า...เลซิตินเพียงอย่างเดียว แก้ปัญหา สุขภาพ สมอง หัวใจ หลอดเลือด มะเร็ง และ ผิวพรรณ ได้เพียง 30% แต่หากได้รับเลซิตินชนิด ฟอสฟาทิดิลโคลีนสูง เสริมด้วยแคโรทีนอยด์จาก ธรรมชาติ 4 ชนิด และวิตามิน อี จะแก้ปัญหา ดังกล่าวได้ถึง 100%
   แคโรทีนอยด์จากธรรมชาติ 4 ชนิด (อัลฟาแคโรทีน เบต้าแคโรทีน แกมมาแคโรทีน และ ไลโคปีน)

  สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยชะลอความแก่ และความเสื่อมของเซลส์ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

   • ดูแลปกป้องตับ โดยยับยั้งการเข้าจู่โจมของอนุมูลอิสระต่อเซลล์ตับ จึงลดการสะสมของไขมันในตับ ป้องกันตับ อักเสบ ป้องกันการเกิดมะเร็งตับจากพิษ Aflatoxin Bl (พิษจากเชื้อรา) และปกป้องตับจากเหล้า รวมทั้งภาวะน้ําตาล ในเลือดสูงในคนไข้เบาหวาน
   • ลดการทําลายผนังหลอดเลือดจากอนุมูลอิสระ ป้องกัน หลอดเลือดอักเสบและลดการออกซิเดชั่นของไขมันใน หลอดเลือด จึงลดการเกิดไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ลดโอกาสการเกิดหลอดเลือด ตีบตันของทุกอวัยวะ
   • ปกป้องสารพันธุกรรมจากการจู่โจมของอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งทุกชนิด
   • ปกป้องเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวพรรณสดใส อ่อนวัย
● วิตามินอี

   วิตามินอี มีชื่อเรียกว่า Tocopherol ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลาย ในไขมัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สําคัญในร่างกายแต่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหาร
   • ช่วยต้านไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ขยายหลอดเลือดฝอย 
   • ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือดที่ผนังหลอดเลือด 
   • ลดโคเลสเตอรอล
   • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

   ซึ่งการใช้แคโรทีนอยด์และวิตามิน อี ร่วมกัน จะส่งเสริม ประสิทธิภาพการต้านออกซิเดชั่นได้ดียิ่งขึ้น โดยมีงานวิจัย รายงานว่า การเสริมแคโรทีนอยด์รวม ร่วมกับวิตามิน อีจะเสริมฤทธิ์กันในการปกป้องเซลล์ตับจากอนุมูลอิสระ และ สามารถลดการเกิดมะเร็งตับในคนไข้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
ได้ถึง 50%
เลซิติน ชนิดฟอสฟาทิดิลโคลีนสูง
เสริมด้วยแคโรทีนอยด์รวมจากธรรมชาติ 4 ชนิด และวิตามิน อี จึงเหมาะกับบุคคลดังต่อไปนี้

ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับการทํางานของตับไม่ปกติ เช่น การย่อยอาหารไม่ดี แน่นท้อง จุกเสียดเป็นประจํา อ่อนเพลียง่าย 
ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และซี
• ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจํา
ผู้ที่มีโรคประจําตัวหรือมีประวัติคนในครอบครัวที่มีความ เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ เช่น
- โรคเกี่ยวกับตับ ไขมันพอกตับ
- เบาหวาน
- อ้วน
- โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต
- มะเร็ง
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง โคเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง 
• ผู้ที่ต้องการบํารุงตับ
• ผู้ที่ต้องการบํารุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์
• ผู้ที่ต้องการบํารุงและปกป้องระบบหลอดเลือดและหัวใจ 
• ผู้ที่ต้องการบํารุงผิวพรรณ
• ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
คลิกภาพ หรือ แสกน QR Code 
เพื่อค้นหาสารอาหารบำรุงตับ


คลิกภาพ เพื่อรับสารดีๆ จาก giffarinevirtualshop.blogspot
  ส่วนหนึ่งของ ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน
สินค้าขายดี จาก แคตตาล็อก กิฟฟารีน ทั้งหมดกว่า 2,000 รายการ
“สร้างสรรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด และถึงพร้อมด้วยคุณภาพสูงสุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน”
อาหารเสริม&วิตามิน
เพื่อสุขภาพ



ผลิตภัณฑ์
เพื่อความงาม



เครื่องสำอาง



ของใช้ส่วนตัว



อาหารและเครื่องดื่ม



ของใช้ในครัวเรือน



Giffarine by Ongard
ช้อปเมื่อไรก็ได้ พร้อมสิทธิมากมาย
กิฟฟารีน ออนไลน์ ที่นี่...เราเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน
Richy Healthy by Giffarine Virtual Shop ร้านค้าที่คุณเริ่มลงทุนเพียง 180 บาท
GIFFARINE Online Network Business เส้นทางสู่ความสำเร็จ
รับสมัครสมาชิก กิฟฟารีน ออนไลน์
Facebook
Twitter
Email

Copyright © Richy Healthy by Giffarine Virtual Shop